หากเป้าหมายสูงสุดของนักกีฬา คือ #ทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ในกีฬาอย่าง endurance sport บางครั้งก็ต้องฝึกหนักๆเช่นกัน (หนักแบบหนักสัสๆด้วย 
ไม่ใช่คิดว่าหนัก

)
การปรับตัวบางอย่าง
#ที่จะส่งเสริมให้ความสามารถเชิงAerobic ดีขึ้นนั้น มาจากปัจจัยอย่าง ความหนัก (intensity) มากกว่า ปริมาณ (volume)

ยกตัวอย่างงานวิจัยนี้ เขาทดสอบการฝึก HIIT แบบ

ปั่นสุดแรง All-out 30วินาที 4-7รอบ สลับกับพัก4นาที
ปรากฏว่าทำไปแค่ 2 สัปดาห์ รวม 6 session
ปรากฏว่า

ผู้ฝึกนั้น สามารถปั่น ให้ถึงเป้าหมายของระยะทางที่ต้องการได้ ในระยะเวลาที่ไวขึ้น
#แสดงถึง พละกำลังของขา ที่ดีขึ้นในการออกแรง

มีระดับของ aerobic enzyme อย่าง Citrate synthase ที่เป็น enzymeสำคัญในการปั่นพลังงานใน TCA cycleที่ดีขึ้น ตัวนี้จัดเป็น rate-limiting enzyme ในวงจร Krebsด้วย ถ้ามีเยอะ ก็ปั่น ATPได้ไวขึ้น

และมีระดับของ glycogenสะสมมากขึ้นถึงเกือบ50%
#ทำไมละ ? เพราะสปรินมันใช้ fast twitch fibers เยอะไง ซึ่งไกโคเจนมันสะสมเยอะอยู่แล้ว ทำให้เกิดภาวะ supercompensationสะสมไปได้ในทุก session ที่ฝึก ตอนเราแข่ง endurance sportเราก็จะสามารถนำ glycogenนี้ไปใช้ได้ด้วย
เราจะเห็นว่า ถึงจะบอกว่า
#ฉันฝึกเพื่อEnduranceSportนะ แต่ก็หนีไม่พ้น การต้องฝึก high intensityร่วมด้วยอยู่
เพื่อ
#ศักยภาพสูงสุดของเรานั้นแหละ
#builddistancerunner PerforMark มีสอนทั้งหมดนี้เลยนะ ลึกจัดด้วย

MuscleClinicz