ถ้าเป็นนักกีฬาendurance ฝึกpowerด้วยจะดี… แต่ถ้าเป็นนักกีฬาpower อย่าฝึกendurance

เคยได้ยินไหม
❓
“ถ้าเป็นนักกีฬาendurance ฝึกpowerด้วยจะดี…
แต่ถ้าเป็นนักกีฬาpower อย่าฝึกendurance”
ประโยคนี้จริงแท้ แน่นอนครับ
 
ขอยกตัวอย่าง หนึ่งในการปรับตัวที่นักกีฬาendurance อย่าง วิ่งไกล (>5k) จะได้รับจากการฝึก Sprint เช่น 100m หรือ 200m คือ #การปรับตัวของเส้นเอ็นที่มากขึ้น
ในการวิจัยนั้นเขาพบว่า Achilles tendon stress rate หรือ แรงเค้นต่อเส้นเอ็นต่อวินาที แตกต่างกันแค่ไหนที่เอ็นร้อยหวานได้รับจากการวิ่ง เทียบกับการเดินไวหรือเยาะๆ
ปรากฏว่า stress rate ต่างกันเกือบ3เท่าตัว 
 
ซึ่ง stress ที่เกิดขึ้นนี้ (ในระยะยาว) สามาระกระตุ้นให้ tendon:
มี #ความหนาตัว (stiffness) สูงขึ้น
✅
ซึ่งแน่นอนว่า สองตัวนี้ ส่งผลกับ Running economy โดยตรง🏃🏾‍➡️
✅
 
ดังนั้นแล้วการวิ่ง Sprint นั้นอาจจะมีทั้งแบบ SIT เช่น all-out 10วินาที และ HIIT สลับหนักเบา เป็นรอบๆไป พวกนี้ก็ทำได้ทั้งหมด และนักกีฬาวิ่งไกล ก็ควรหาวันฝึกอะไรพวกนี้บ้างด้วย
แถมการวิ่งสปรินยังส่งผลกับเรื่องของการปรับตัวในด้ารอื่นๆที่ดีขึ้นในนักวิ่งไกลด้วย
 
Gheidi, N., et al.(2018).  Physical therapy in sport.

This article was updated on มิถุนายน 3, 2025